รถจักรยานเสือภูเขาเป็นรถที่มีน้ำหนักมากกว่ารถถนนฉะนั้นเวลาเราเอาไปขี่ฝึกซ้อมกับกลุ่มผู้ขี่รถถนนเราจะต้องออกแรงปั่นมากกว่าคนอื่นๆ (เสียเปรียบ) แม้ว่าปัจจุบันจักรยานรถเสือภูเขาจะมีการพัฒนาในเรื่องการผลิตไปมากแล้วทั้งวัสดุและอุปกรณ์แต่ด้วยลักษณะทางกายภาพ( สรีระของรถ) ก็ยังทำให้เสียเปรียบรถถนนอยู่ดี ในเรื่องน้ำหนักของล้อ ยาง ซี่ลวด จาน ปัจจุบันรถเสือภูเขามีขนาดวงล้อตั้ง 26" 27.5" และ29" (ผมเลือกใช้ รถ ล้อ 27.5" BH ULTIMATE 27.5"RC) แล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับรถถนนได้ในเรื่องน้ำหนักและการทำความเร็วในการปั่นได้
วันนี้มีข้อเสนอแนะสำหรับรถเสือภูเขาที่มาปั่นซ้อมถนน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ
1.เปลี่ยนมาใช้เฟืองรถถนนจะขี่ได้ดีกว่า เพราะเหตุว่าเฟืองรถถนนมันจะเป็นเฟืองเรียง หนักขึ้นหรือเบาลงที่ละนิดเช่น 11-12-13-14-15-16-17-19-23-25 แต่ในขณะที่เฟืองรถเสือภูเขา จะเป็นเฟืองกระโดดหนักขึ้นหรือเบาลงทันทีคือหนักก็หนักมากเบาก็เบาหวิวทันทีเช่นกัน เช่น 11-13-15-17-19-21-23-27-32-36 เป็นต้น
2.เปลี่ยนเป็นยางสลิค จะขี่ได้นุ่มนวลกว่าและเร็วกว่าปกติของรถเสือภูเขา
3.เปลี่ยนจานหน้าให้ใหญ่ขึ้น จาก 42 มาเป็น 46 หรือ 48 หรือถ้าให้ดีใช้ชุดเกียร์รถนนไปเลย
4.ติดแอโร่บาร์เอาไว้ขี่ทวนลมหรือขี่จี้กลุ่ม
5. เปลี่ยนล้อเป็นล้อรถถนน(27.5")หรือล้อคาร์บอน
6. สูบลมยางให้ค่อนข้างแข็งนิดหน่อย
6.เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับเส้นทางเช่นขี่ขึ้นเนิน ขึ้นสะพาน หรือขี่ตามลม
8.เลือกตำแหน่งในการขี่จี้ให้เหมาะสมว่าจะขี่จี้ทางซ้ายหรือทางขวา(ขึ้นอยู่ที่ทิศทางลมว่ามันพัดมาทางไหน?พัดมาทางขวาขี้จี้อยู่ทางซ้ายลมพัดมาทางซ้ายขี่จี้อยู่ทางขวา)
9.เมื่อต้องขี่นำให้ขี่ในท่าแอโรไดนามิกใช้แอโรบาร์ให้เป็นประโยขน์
10.ดื่มน้ำทุกๆ10นาที หรือเติมพลังจาก อาหารเสริม เช่น น้ำเกลือแร่ บาร์ เจลล์ต่างๆ
นี่คือข้อเสนอแนะเล็กๆน้อยๆจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองคิดว่าน่าจะเป็นประโยขน์สำหรับพี่น้องชาวเสือภูเขาที่ต้องการเอารถเสือภูเขาไปต่อกรกับเสือหมอบครับ.
Share :