BMC ร่วมมือกับ
Red Bull Advanced Technologies เพื่อพัฒนาต้นแบบ
Speedmachine ในรุ่นใหม่
โดยให้ชื่อจักรยาน TT & Tri รุ่นใหม่ว่า
"World's Fastest Race Bike"หรือ
“จักรยานที่เร็วที่สุดในโลก เตรียมเปิดตัวสุดสัปดาห์นี้ที่การแข่งขัน
Ironman World Championships จักรยานแข่งขันสไตล์
"Formula One" ที่แท้จริง มาพร้อมฟีเจอร์กลโกงในการสร้างแอโรไดนามิกมากมายที่เราเคยเห็นบนถนนแอโร่, จักรยาน TT , จักรยานสำหรับไตรกีฬาอื่นๆ สู่การยกระดับถัดไปในรายละเอียดดังนี้
ห้องปฏิบัติการ R&D Impec ของสวิสของ BMC ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับแผนกเทคโนโลยีขั้นสูงของ Red Bull เป็นเวลาสี่ปีในโครงการนี้เพื่อพัฒนา 'จักรยานแข่งที่เร็วที่สุดในโลก'
BMC ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาจักรยานถนนและรถแข่งมาสู่สนามเป็นเวลาหลายทศวรรษ
บวกกับการนำประสบการณ์การแข่งจักรยานที่เกิดขึ้นจริงจาก Brand ambassador และผู้สร้างตำนานนักแข่ง TT อย่าง Fabian Cancellara มาใช้ ในทางกลับกัน
ทีมงาน Red Bull Advanced Technologies นำเสนอความสามารถในการจำลองตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้
ซึ่งรวมถึงการสร้างแบบจำลองทั้งจักรยานยนต์และสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่สมบูรณ์กว่า
CFD ของการออกแบบจักรยานยนต์ทั่วไป
ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับความซับซ้อนของการแข่งรถ Formula One
Stefan
Christ หัวหน้าฝ่าย R&D ของ
BMC ร่วมกันบรรยายถึงกระบวนการพัฒนาเสริมที่ช่วยให้ทีมออกแบบและวิศวกรรมของพวกเขาในเมือง
Grenchen ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่สามารถย้ายจากการจำลองไปสู่การสร้างต้นแบบของจักรยานในรุ่นต่อไป
ตลอดเส้นทาง Cancellara ได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการ
ตั้งแต่การปรับแต่งตำแหน่งจุดต่างๆของจักรยานไปจนถึงการควบคุมคุณภาพในการขับขี่
เพื่อรักษา aero tuck ในระหว่างการทดลองใช้เวลานานของการแข่งไตรกีฬาระยะไกล Cancellara อธิบายว่าการทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนา
BMC x Red Bull นั้น
“น่ามหัศจรรย์” จากมุมมองของนักขี่ โดยกล่าวว่า “ต้นแบบที่เสร็จสมบูรณ์นั้นช่างเหลือเชื่อ
และเขาได้ตั้งตารอสิ่งนี้เป็นอย่างมาก” ในขณะที่
Speedmachine เป็นมากกว่าแค่แนวคิดแต่สามารถสัมผัสได้จริง
ณ ตอนนี้ ต้นแบบ BMC Speedmachine นี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก
UCI สำหรับการแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะเป็นที่ยอมรับเนื่องจากการอัปเดตล่าสุดในรายการ
UCI นั้นอยู่ที่รายชื่อที่ยื่นขออนุญาตไปเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565
BMC ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคใดๆ เกี่ยวกับต้นแบบ Speedmachine ใหม่เลยเช่นกัน อันที่จริงพวกเขายังไม่ได้ตั้งชื่อมันอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าพวกเขาจะทาสี Speedmachine ลงไปแล้ว
ชื่อใหม่นั้นสมเหตุสมผลแล้ว เนื่องจากวิวัฒนาการของจักรยานเสือหมอบ aero ได้นำชื่อ TimeMachine มาใช้ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นจักรยาน TT เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แม้แต่ TeamMachine ที่แข่งรถบนถนนอายุ 10 ปีก็กลายเป็นแอโร่และบูรณาการมากขึ้น
แต่การมองอย่างใกล้ชิดจะเผยให้เห็นรายละเอียดทางเทคนิคที่น่าสนใจมากมาย
โดยเริ่มจากด้านหน้าด้วยการออกแบบส่วนของการควบคุมที่เดินสายเคเบิลภายในแบบเต็มรูปแบบ
.
ต้นแบบ BMC Speedmachine ได้มีการออกแบบตะเกียบใหม่
สเตมและเบสบาร์ให้เป็นชิ้นเดียวที่ผสานรวมกับเฮดทูบแบบ Aero ที่ขยายได้อย่างลงตัว headtube
รูปทรงกึ่งนาฬิกาทรายจะผลักดันให้โครงสร้างของส่วนหัวมีความกลมกลืนและลงตัวยิ่งขึ้น
โดยมีรูปทรงเหมือนครีบปลาที่ช่วยกระจายลมปะทะออกทางปลายสุด
ความแตกต่างในการตั้งค่าของส่วนขับควบคุม
(cockpit) ระหว่าง Nilsson & Cancellara ยังแนะนำว่าเบสบาร์แอโร่ที่แตกต่างกันนั้นจะมีความสูงแตกต่างกันไปตามมือจับด้านนอก
แต่รูปทรงยังคงเพรียวบางเหมือนกับที่จัดวางอย่างสมบูรณ์แบบกับส่วนบนตามท่อบนแนวนอน
เราจะเห็นการออกแบบของท่อ Head tube มีลักษณะกว้างมาก
การออกแบบนี้ได้รับแนวทางมาจากการใช้ท่อแบบ Tapered
ที่ต้องการบ่ารับที่กว้างด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้การออกแบบของท่อส่วนหัวมีความกว้างพิเศษเพื่อผสานให้มีความลงตัวและยังเป็นพื้นที่เอาไว้จัดเก็บสาย
Cable อีกต่างหาก
จักรยานต้นแบบยังมีการออกแบบตะเกียบที่กว้างและดุดัน
พร้อมขาแอโร่ที่ลึกเป็นพิเศษเพื่อเชื่อมต่อกับ ด้านใน ยาง Pirelli P Zero Race TLR ขนาด
26 มม. ที่จะใส่เข้ากับล้อ Swiss ARC มีพื้นที่มากมายสำหรับการไหลเวียนของอากาศที่ไม่ถูกรบกวน
นอกจากนี้ยังมีครีบที่เป็นเอกลักษณ์ที่ด้านล่างเพื่อส่งลมไปด้านข้าง
เหนือท่อล่างแบบแอโร่
ตัวโครงหลักของเฟรมกว้างขึ้นในครึ่งล่าง
ออกแบบให้สอดรับกับกล่องเก็บของในตัว Speedmachine
รุ่นทดลองใช้งาน และน่าจะเป็นกระติกน้ำพิเศษสำหรับรุ่น TT
ในส่วนด้านหลังมีการออกแบบการรัดหลักอานด้วนระบบ bolt ที่มีตัวยึดถึง 3 จุดแทนระบบรัดหลักอานแบบเก่าคือแบบลิ่มหรือแบบรัดหลักอานทำให้เกิดความสะดวกและง่ายต่อการปรับเปลี่ยน หลักอานได้ออกแบบให้รองรับรางของอานที่ยาวยิ่งขึ้นทำให้นักขี่สามารถปรับตำแหน่งของอานได้หลากหลายมากขึ้น
ในส่วนด้านล่าง เราจะได้เห็นได้ว่าท่อ Seatstay ได้ถูกออกแบบมาให้เล็กลงเพื่อเพิ่มความแอโร่
เราจะเห็นได้ถึงจุดเลื่อมต่อกับ Brake caliper
และ
ตัวเปลี่ยนตีนผีถูกซ่อนไว้ในด้านขับเคลื่อนอย่างสมบูรณ์แบบทำให้ดูสะอาดตาและเพิ่มแอโร่ได้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าครั้งแรกที่มองมาจะดูไม่แตกต่างจากรถจักรยานสำหรับการแข่งขันแบบแอโร่ทั่วๆไปแต่
BMC และ Redbull
นั้นได้ทำการปรับ
เปลี่ยนและยกระดับภายในและจุดต่างๆที่ยกระดับให้ Speedmachine
กลายเป็นจักยานที่มีความ Arodynamic
ที่สมบูรณ์แบบ
และเจ้า Speedmachine นี้ได้ถูกสร้างให้พร้อมสำหรับนักแข่งโปรทัวร์ได้มันลงสู่สนามและได้แสดงศักยภาพที่น่าทึ่งในงาน
Ironman 2021 โดย
Patrik Nilsson ที่จะนำลงแข่งขันเร็วๆนี้